ชื่องานวิจัย | พฤติกรรมการบริโภคอาหารของนิสิตแขนงอนามัยชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 26 ก.ค. 2565 |
หน่วยงาน | สำนักงานสาธารณสุขอำเภอบ่อเกลือ |
ผู้วิจัย | นายนที ใจเปรมปรีดี |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความวิชาการ หรือ เอกสารรูปแบบวิชาการต่างๆ |
คำสำคัญ | พฤติกรรมการบริโภคอาหาร |
สาขางานวิจัย | งานบริการระดับปฐมภูมิ |
ประเด็นงานวิจัย | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและ Health Literacy |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง (Determinant analysis) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงเปรียบเทียบสาเหตุ (Causal Comparative Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงคุณภาพ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์เฉพาะหน่วยงาน |
เอกสาร | พฤติกรรมการบริโภคอาหารของนิสิตแขนงอนามัยชุมชน.pdf |
คะแนน | 67 |
จำนวนการเข้าชม | 99 |
เพื่อศึกษาปัจจัยด้านบุคคลและด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนิสิตแขนงอนามัยชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
วิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามเพื่อใช้เก็บรวบรวมข้อมูล เรื่องพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนิสิตคณะแพทยศาสตร์สาขาสาธรณสุขศาสตร์(อนามัยชุมชน) มหาวิทยาลัยพะเยา
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) โดยมีวิธีการศึกษาดังต่อไปนี้
ประชากรในการศึกษา คือ นิสิตคณะแพทยศาสตร์แขนงอนามัยชุมชน อนามัยชุมชนคู่ขนานนิติศาสตร์ และอนามัยชุมชนคู่ขนานเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 1377 คน
คำนวนกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้สูตรคำนวณกรณีทราบจำนวนประชากรที่แน่นอนโดยใช้สูตร ทาโร่ ยามาเน่(Yamane, Taro 1973 อ้างอิงในศิริพงศ์ พฤทธิพันธ์. 2553) ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ค่าความคลาดเคลื่อน 0.05 ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 310 คน เก็บตัวอย่างโดยการสุ่มเลือกตัวอย่างจะใช้วิธีการสุ่มแบบโดยใช้ความน่าจะเป็น (Probability sampling) ประเภทใช้การเลือกลุ่มตัวอย่างง่าย
ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 71.9 มีเจตคติต่อการบริโภคอาหารส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 70.6 ได้รับอิทธิพลจากสื่อสารมวลชนส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 63.9 ปัจจัยในการเลือกซื้อบริโภคส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 66.8 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 65.8 และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารของกลุ่มตัวอย่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ เพศ (P-value = 0.006) ระดับชั้นปีที่กำลังศึกษา (P-value = 0.014) เจตคติต่อการบริโภคอาหาร (P-value = 0.006) และอิทธิพลจากสื่อสารมวลชน (P-value = 0.003)
ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ เพศ (P-value = 0.006) ระดับชั้นปีที่กำลังศึกษา (P-value = 0.014) เจตคติต่อการบริโภคอาหาร (P-value = 0.006) และอิทธิพลจากสื่อสารมวลชน (P-value = 0.003)
ปัจจัยที่ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ได้แก่ เกรดเฉลี่ยสะสม (P-value = 0.186) รายได้เฉลี่ยที่ได้รับต่อเดือน (P-value = 0.712) ค่าดัชนีมวลกาย (P-value = 0.520) โรคประจำตัว (P-value = 0.220) ความรู้เกี่ยวกับการบริโภค (P-value = 0.055) ปัจจัยในการเลือกซื้อบริโภค (P-value = 0.266)
ยังมีตัวแปรอื่นและปัจจัยอื่น เช่น พฤติกรรมการออกกำลังกาย การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ ที่ไม่ได้ทำการศึกษา