ชื่องานวิจัย | นวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยฟัง |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 23 ธ.ค. 2564 |
หน่วยงาน | โรงพยาบาลแม่จริม |
ผู้วิจัย | นายประสิทธิ์ โนราช |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความวิชาการ หรือ เอกสารรูปแบบวิชาการต่างๆ |
คำสำคัญ | อุปกรณ์ช่วยฟัง |
สาขางานวิจัย | งานนวัตกรรม (สิ่งประดิษฐ์) |
ประเด็นงานวิจัย | ระบบบริการและนโยบายสุขภาพ |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การสนับสนุนงานบริการ (Health service support) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงคุณภาพและปริมาณ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์ ขยายผลในระดับองค์กร |
เอกสาร | NPHC2021-นวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยฟัง รพ.แม่จริม.pdf |
คะแนน | 62 |
จำนวนการเข้าชม | 86 |
เพื่อต้องการให้ผู้รับบริการทันตกรรมที่มีปัญหาด้านการได้ยินที่ไม่ชัดเจน มีการได้ยินชัดเจนมากขึ้นเมื่อใช้นวัตกรรมนี้
การศึกษาเชิงทดลอง (experimental research)
เป็นการศึกษาและพัฒนาโดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 ศึกษากระบวนการทำงาน ปัญหาที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำงาน และความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหา
ขั้นตอนที่ 2 ออกแบบและปรับปรุงนวัตกรรม
2.1 เตรียมวัสดุและอุปกรณ์ ได้แก่ สเต็ตโตสโคป และสายยางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางด้านใน 4 มิลลิเมตร ยาว 1 เมตร (ทดสอบการใช้งานในความยาวต่าง ๆ จนได้ความยาวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับงานทันตกรรม ในเกณฑ์ของระยะห่างระหว่างผู้ให้-ผู้รับบริการและความชัดเจนของการได้ยิน)
2.2 ถอดสายสเต็ตโตสโคปออกจากส่วนของไดอะแฟรม
2.3 ต่อสายยางที่เตรียมเข้ากับส่วนของท่อนำเสียงและไดอะแฟรมของสเต็ตโตสโคป
ขั้นตอนที่ 3 การนำไปใช้กับผู้รับบริการที่มีปัญหาการได้ยินไม่ชัดเจน และประเมินผลการใช้งาน (ทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ)
ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ให้และผู้รับบริการต่อนวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยฟัง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนมิถุนายน 2564 พบว่า ผู้รับบริการมีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมโดยรวมร้อยละ 91.8 มีการได้ยินที่ชัดเจนขึ้นเมื่อเทียบกับการไม่ใช้เครื่องมือทุกราย เฉลี่ย 4.5 ระดับ โดยได้ยินชัดเจนทุกคำ ร้อยละ 94.3 ได้ยินบางคำ พอจับใจความได้ ร้อยละ 35.7 ไม่มีผู้รับบริการที่ใช้นวัตกรรมแล้วไม่ค่อยได้ยิน ต้องถามซ้ำหรือไม่ได้ยินเลย ผู้ให้บริการมีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมโดยรวมร้อยละ 95.2 และแยกเป็นรายหัวข้อดังตารางที่ 1- 3
ผู้รับบริการทันตกรรมบางรายมีปัญหาด้านการได้ยินที่ไม่ชัดเจน ส่งผลให้การสื่อสารระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการไม่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ระยะเวลาในการสื่อสารนาน ความเข้าใจคลาดเคลื่อนทั้งข้อมูลการเจ็บป่วย รายละเอียดของโรค แผนการรักษา และการร่วมตัดสินใจในการรักษาของผู้รับบริการ เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นกระบวนการสำคัญต่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ผู้จัดทำจึงคิดนวัตกรรมเพื่อให้ผู้รับบริการที่มีปัญหาด้านการได้ยินที่ไม่ชัดเจนสามารถได้ยินชัดเจนมากขึ้นเมื่อใช้อุปกรณ์ โดยเริ่มจากการสำรวจความต้องการของผู้ใช้ แล้วนำมาเป็นข้อมูลในการคิดค้น ประดิษฐ์นวัตกรรม ทดลองใช้ และปรับปรุงเพื่อแก้ไขปัญหาและให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด มีการนำไปใช้จริงกับผู้รับบริการที่มีปัญหาด้านการได้ยินที่ไม่ชัดเจน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ และผู้ให้บริการได้แก่ ผู้ช่วยทันตแพทย์ ทันตาภิบาล และทันตแพทย์ พบว่าความพึงพอใจของผู้รับบริการโดยรวมต่อนวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยฟังร้อยละ 91.8 มีการได้ยินที่ชัดเจนขึ้นเมื่อเทียบกับการไม่ใช้เครื่องมือทุกราย เฉลี่ย 4.5 ระดับ โดยได้ยินชัดเจนทุกคำ ร้อยละ 94.3 ได้ยินบางคำ พอจับใจความได้ ร้อยละ 35.7 ไม่มีผู้รับบริการที่ใช้นวัตกรรมแล้วไม่ค่อยได้ยิน ต้องถามซ้ำหรือไม่ได้ยินเลยความพึงพอใจโดยรวมของผู้ให้บริการต่อนวัตกรรม ร้อยละ 95.2 มีข้อเสนอแนะคือการพัฒนาออกแบบให้ส่วนรับสัญญาณเสียงสามารถติดกับตัวผู้ให้บริการได้ ไม่ต้องถือ ระหว่างการรักษาหากจำเป็นต้องใช้งานอุปกรณ์ช่วยฟัง
ข้อเสนอแนะคือการพัฒนาออกแบบให้ส่วนรับสัญญาณเสียงสามารถติดกับตัวผู้ให้บริการได้ ไม่ต้องถือ ระหว่างการรักษาหากจำเป็นต้องใช้งานอุปกรณ์ช่วยฟัง
ประชุมวิชาการสาธารณสุขน่าน ประจำปี พ.ศ. 2564 ได้รับรางวัลนวัตกรรมระดับยอดเยี่ยม