ชื่องานวิจัย | ประสิทธิผลของการสรา้งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กล่มุเสี่ยงโรคเบาหวาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 26 ก.ค. 2565 |
หน่วยงาน | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสันทะ |
ผู้วิจัย | นางสาวจารุวรรณ รุ่งเรือง |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความวิชาการ หรือ เอกสารรูปแบบวิชาการต่างๆ |
คำสำคัญ | ความรอบรู้ด้านสุขภาพ,พฤติกรรม,กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน |
สาขางานวิจัย | งานบริการระดับปฐมภูมิ |
ประเด็นงานวิจัย | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและ Health Literacy |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การส่งเสริมสุขภาพ (Health promotion) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงปริมาณ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์เฉพาะหน่วยงาน |
เอกสาร | ประสิทธิผลของการสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน.pdf |
คะแนน | 67 |
จำนวนการเข้าชม | 98 |
1. เพื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยคะแนนความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพ ก่อนและหลัง การศึกษาของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
2. เพื่อเปรียบเทียบค่าระดับน้ำตาลในเลือด ก่อนและหลังการศึกษา ในกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
การวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi-experimental research) ดำเนินการทดลองแบบกลุ่มหนึ่ง วัดก่อนและหลังการทดลอง
การศึกษานี้เป็นการวิจัยกึ่ง ทดลอง (Quasi-experimental research) ดำเนินการทดลองแบบกลุ่มหนึ่ง วัดก่อนและหลังการทดลอง (Onegrouppretest–posttestdesign) กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเสี่ยงป่วยโรคเบาหวาน หมู่ที่ 2 บ้านห้วยจอย ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน จำนวน 33 คน โดยศึกษาช่วง เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 75.8 อยู่ในกลุ่มอายุ 51-60 ปี ร้อยละ 39.4 อายุน้อยที่สุด 35 ปี อายุมากที่สุด 69 ปี ส่วนใหญ่มีสถานะภาพสมรส ร้อยละ 90.9 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับประถมศึกษา ร้อยละ 66.7 และประกอบอาชีพเกษตรกร ร้อยละ 100 ผลการศึกษา พบว่าหลังการทดลองกลุ่มตัวอย่างมีความรอบรู้ด้านสุขภาพและมีพฤติกรรมสุขภาพแตกต่างกัน (p-value>0.05) และมีค่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p- value<0.05)
จากผลการวิจัยอนุมานได้ว่าในปัจจุบันประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น แต่ยังขาดความตระหนักในการนำไปปฏิบัติ ควรเพิ่มระยะเวลาการติดตามและกระตุ้นกลุ่มตัวอย่างอย่างต่อเนื่อง สำหรับงานวิจัยในคร้ังนี้ควรมีการศึกษาต่อในเรื่องการพัฒนารูปแบบโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่สอดคล้องกับวิถีการดาเนินชีวิตของประชาชน
ระยะเวลาในการดำเนินงาน เนื่องจากเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้สามารถดำเนินการได้เพียง 4 สัปดาห์
งานประชุมวิชาการสาธารณสุขจังหวัดน่าน ปี 2564