ชื่องานวิจัย | รูปแบบการให้บริการคลินิกเบาหวานโดยใช้แนวคิดแบบลีน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอวน อำเภอปัว จังหวัดน่าน |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 26 ก.ค. 2565 |
หน่วยงาน | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอวน |
ผู้วิจัย | นายธีรพงษ์ ธงหิมะ |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความวิชาการ หรือ เอกสารรูปแบบวิชาการต่างๆ |
คำสำคัญ | คลินิกเบาหวาน ลีน,การให้บริการ |
สาขางานวิจัย | งานบริการระดับปฐมภูมิ |
ประเด็นงานวิจัย | ระบบบริการและนโยบายสุขภาพ |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การสนับสนุนงานบริการ (Health service support) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงคุณภาพและปริมาณ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์ ขยายผลในหลายองค์กร ชุมชน อำเภอ หรือระดับจังหวัด |
เอกสาร | การพัฒนารูปแบบคลินิกเบาหวาน รพ.สต.อวน.pdf |
คะแนน | 49 |
จำนวนการเข้าชม | 85 |
1) เพื่อพัศึกษารูปแบบการให้บริการคลินิกเบาหวานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอวน อำเภอปัว จังหวัดน่าน
2) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจต่อคุณภาพการให้บริการคลินิกเบาหวาน
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัศึกษารูปแบบการให้บริการคลินิกเบาหวานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอวน อำเภอปัว จังหวัดน่าน 2) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจต่อคุณภาพการให้บริการคลินิกเบาหวาน และ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มารับบริการคลินิกเบาหวานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอวน จำนวน 40 คน ได้จากการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง
การศึกษาแบ่งเป็น 5 ขั้นตอนตามแนวคิดแบบลีน คือ 1) การกำหนดเป้าหมายและแผนการดำเนินงาน 2) การศึกษาการเลื่อนไหลของงานทั้งระบบ 3) การพัฒนากระบวนการบริการ 4) การจัดวางระบบใหม่ และ 5) การปรับปรุงงานอย่างต่อเนื่อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบขั้นตอนการบริการคลินิกเบาหวานโดยใช้แนวคิดแบบลีน 2) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อคุณภาพการบริการของผู้ป่วยคลินิกเบาหวาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน มัธยฐาน ส่วนเบี่ยงเบน ควอไทล์ และสถิติทดสอบที ชนิดกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม (The One Group Pretest-Posttest Only Design)
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ ผู้ป่วยมีความพึงพอใจสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจต่อการบริการคลินิกฯ โดยใช้แนวคิดแบบลีนที่พัฒนาขึ้น โดยรวมสูงกว่ารูปแบบเดิม จะเห็นได้ว่า ค่าเฉลี่ย ด้านการให้บริการเพิ่มจาก 2.56 เป็น 4.14 ด้านคุณภาพบริการ 3.43 เป็น 4.75 ด้านเจ้าหน้าที่หรือผู้ให้บริการ 3.51 เป็น 4.45 และ ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก 3.45 เป็น 4.61 ตามลำดับ และผู้ป่วยมีความพึงพอใจสูงกว่ารูปแบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
เนื่องจากภาระงานของเจ้าหน้าที่ ที่มีค่อนข้างมาก ทำให้การจัดบริการร่วมกับการทำผลงานวิชาการมีข้อจำกัดด้านเวลา จำนวนคน และงบประมาณ ดังนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมากที่ผู้บริหารต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานร่วมกับการทำผลงานวิชาการไปด้วย
เผยแพร่งานวิชาการสาธารณสุขระดับจังหวัด และ ระดับเขต ในระดับดีเด่น