ชื่องานวิจัย | ประสิทธิผลของการใช้ถุงเก็บปัสสาวะที่ทำจากถุงพลาสติก |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 1 ก.ค. 2561 |
หน่วยงาน | โรงพยาบาลทุ่งช้าง |
ผู้วิจัย | นางขวัญฤทัย เจริญศุภพงศ์ |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ |
คำสำคัญ | ถุงพลาสติก ถุงเก็บปัสสาวะ |
สาขางานวิจัย | งานนวัตกรรม (สิ่งประดิษฐ์) |
ประเด็นงานวิจัย | โรค ภัยและภาวะสุขภาพ |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การรักษาทางการแพทย์ (Medical treatment) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงคุณภาพและปริมาณ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์ ขยายผลในระดับองค์กร |
เอกสาร | |
คะแนน | 0 |
จำนวนการเข้าชม | 109 |
ประดิษฐ์ถุงเก็บปัสสาวะแทนการเก็บปัสสาวะแบบเดิม และเพื่อศึกษาผลของนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ ครอบคลุมประเด็น เรื่อง ทุน เวลา การนำมาใช้ การดูแลรักษา และความพึงพอใจ
การวิจัยและพัฒนา ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2559 ในกลุ่มเด็ก 0-3 ปี จำนวน 30 คน
เครื่องมือที่ใช้มี 2 ชิ้น คือถุงเก็บปัสสาวะลูกรัก และแบบประเมินความพึงพอใจ
ขั้นตอนการศึกษา
1.ทบทวนประเภทถุงพลาสติก
2.นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อเสนอแนะ
3.นำไปให้แผนกต่าง ๆ ใน รพ.ทุ่งช้าง ทดลองใช้
4.นำไปให้ผู้ปกครองของผู้รับบริการ และผู้ให้บริการประเมินความพึงพอใจ
1. ถุงพลาสติก 6x9 นิ้ว มีราคาถูกและจัดซื้อได้ง่ายกว่าเพราะมีตามร้านค้าทั่วไป
2. จำนวนเด็กอายุ 0-3 ปีที่รับบริการโรงพยาบาลทุ่งช้างในเดือนมกราคม2559 -มีนาคม 2559ทั้งหมด 428 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 3.40 ของจำนวนผู้ที่รับบริการโรงพยาบาลทุ่งช้างทั้งหมด และเป็นเด็กอายุ 0-3 ปีที่มารับบริการโรงพยาบาลทุ่งช้างและต้องเก็บปัสสาวะส่งตรวจ 30 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 7 ของเด็กอายุ 0-3 ปีที่มารับบริการโรงพยาบาลทุ่งช้างทั้งหมด
3.ระยะเวลาเฉลี่ยในการเก็บปัสสาวะส่งตรวจลดลงถึง 4 เท่า ซึ่งส่งผลต่อการวินิจฉัยโรค และการได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น สามารถลดภาวะแทรกซ้อน หรือความรุนแรงของโรคได้
4.ผู้รับบริการ จำนวน 30 ราย ที่มารับบริการและต้องเก็บปัสสาวะส่งตรวจ ในช่วงระหว่างเดือน มกราคม2559 – มีนาคม 2559 พบว่า ไม่เกิดข้อร้องเรียน และไม่พบภาวะแทรกซ้อนกับผู้รับบริการขณะใช้อุปกรณ์และหลังการใช้อุปกรณ์คิดเป็นร้อยละ100
1. ด้านทุน ถุงเก็บปัสสาวะลูกรัก ดัดแปลงมาจากการใช้ถุงพลาสติกซึ่งมีต้นทุนการซื้อไม่ถึง 1 บาท เปรียบเทียบกับถุงเก็บปัสสาวะจากบริษัทเอกชนซึ่งมีการขายที่ชิ้นละประมาณ 10 บาท ถุงเก็บปัสสาวะถือเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้แล้วทิ้ง จึงประหยัดและคุ้มทุนกว่า อีกทั้งไม่ต้องรอแผนการจัดซื้อประจำปี สามารถผลิตใช้เองได้ง่ายในหน่วยงาน ขั้นตอนการประดิษฐ์ไม่ยุ่งยาก
2. ด้านการเก็บรักษา เก็บรักษาง่าย เก็บในที่แห้ง
3. การนำมาใช้ ถุงเก็บปัสสาวะไม่รั่วซึม ใช้งานง่ายเพียงแค่แกะแถบกาวออกและแปะผิวหนังรอบๆอวัยวะสืบพันธุ์ ลักษณะถุงจะบาง เรียวแบนแนบตามสรีระบริเวณขาหนีบ ทำให้รู้สึกสุขสบายมากกว่าถุงปัสสาวะที่จัดซื้อบริษัท นอกจากจะเก็บปัสสาวะส่งตรวจแล้วยังมีขีดวัดปริมาตรติดไว้ที่ถุงเพื่อสามารถดูปริมาตรของปัสสาวะที่ออกมาได้
4. ระยะเวลา ถุงปัสสาวะลูกรักสามารถเก็บปัสสาวะได้ทุกเวลาเมื่อเด็กปัสสาวะ ทำให้การวินิจฉัยโรครวดเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่า และได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
5.ความพึงพอใจ มารดาเด็กและผู้ให้บริการมีความพึงพอใจต่อการใช้ถุงปัสสาวะลูกรัก ร้อยละ 100 ไม่เกิดข้อร้องเรียนและไม่พบภาวะแทรกซ้อนในผู้รับบริการคิดเป็นร้อยละ 100 และสามารถลดภาวะเครียดจากการปฏิบัติงานได้
การทดสอบอุปกรณ์นี้มีข้อจำกัดคือจำกัดในด้านของการไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่เด็กเล็กจะปัสสาวะได้ ทำให้การศึกษาเรื่องระยะเวลาในการส่งปัสสาวะตรวจที่ห้องปฏิบัติการมีความคลาดเคลื่อนได้
รางวัลผลงานวิชาการดีเด่นระดับประเทศ กระทรวงสาธารณสุข
ตีพิมพ์วารสารวิชาการสาธารณสุข ปีที่ 27 ฉบับที่ 4 กรกฎาคม-สิงหาคม 2561