ชื่องานวิจัย | รูปแบบการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่น ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหลักหมื่น อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 1 ต.ค. 2556 |
หน่วยงาน | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหลักหมื่น |
ผู้วิจัย | นายAdmin NRIS |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความวิชาการ หรือ เอกสารรูปแบบวิชาการต่างๆ |
คำสำคัญ | การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์,วัยรุ่น |
สาขางานวิจัย | งานบริการระดับปฐมภูมิ |
ประเด็นงานวิจัย | กลุ่มวัยและกลุ่มเปราะบาง |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การส่งเสริมสุขภาพ (Health promotion) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงปริมาณ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์เฉพาะหน่วยงาน |
เอกสาร | |
คะแนน | 0 |
จำนวนการเข้าชม | 421 |
เพื่อศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นในพื้นที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหลักหมื่น
การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR : Participatory Action Research)
ศึกษารูปแบบการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นในพื้นที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหลักหมื่น และที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านในเขตรับผิดชอบจำนวน 8 หมู่บ้านคือ บ้าน หลักหมื่น บ้านห้วยเสียม บ้านนาทะนุง บ้านหนองบัว บ้านหัวทุ่ง บ้านสันติสุข บ้านห้วยฮ้อ และบ้านทุ่งศรี รวม 92 คน ดำเนินการวิจัยในช่วง พฤษภาคม 2555 – มีนาคม 2556 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแบบสอบถามปัจจัยด้านความรู้ ปัจจัยด้านทัศนคติ ปัจจัยด้านพฤติกรรม ชุดความรู้ทั้งหมด 6 ฐานคือการเรียนรู้สถานการณ์เกี่ยวกับปัญหาและผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและการ ตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น เพศศึกษา การวางแผนครอบครัว การป้องกันตัวเองในภาวะคับขันและวิธีการ ปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ การป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และทักษะชีวิต มีคลินิกบริการ ที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่นและตู้ถุงยางอนามัยหยอดเหรียญใน รพสต.บ้านหลักหมื่น ประมวลผลข้อมูล โดย โปรแกรมสำเร็จรูป หาค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า วัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 12 ปี และไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ มาก่อน วัยรุ่นที่เคยมีเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่มีการป้องกันเป็นบางครั้ง และพบว่ามีวัยรุ่นที่ไม่เคยป้องกันเลย ร้อยละ 16.6 ป้องกันการตั้งครรภ์โดยใช้ถุงยางอนามัยเป็นส่วนใหญ่ เหตุจูงใจในการมีเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่คือการ อยู่สองต่อสองและความอยากรู้อยากลอง วัยรุ่นเคยดูสื่อลามกร้อยละ 60.9 ส่วนใหญ่สื่อลามกประเภท คลิปมือถือ และอินเตอร์เน็ตออนไลน์ ส่วนใหญ่ได้รับความรู้เรื่องเพศศึกษา ปัจจัยด้านความรู้เรื่องการ ปูองกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ของวัยรุ่นอยู่ในระดับสูง ปัจจัยด้านทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องการ ป้องกันการตั้งครรภ์อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยด้านพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์อยู่ใน ระดับสูง มีคลินิกบริการที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่นใน รพ.สต.บ้านหลักหมื่น มีผู้รับบริการ 5 ราย เป็นเพศชาย 1 ราย เพศหญิง 4 ราย และพบวัยรุ่นอายุตั้งครรภ์ จำนวน 2 ราย ให้บริการตู้ถุงยางอนามัยหยอดเหรียญ 240 กล่อง รวม 720 ชิ้น โดยผู้รับบริการส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ข้อค้นพบจากการวิจัยครั้งนี้ที่พบว่าการ ตอบแบบสอบถามของวัยรุ่นที่มีความรู้และพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ในระดับสูง และมีทัศนคติใน ระดับปานกลาง แต่ในทางกลับกันยังพบว่ามีวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อยู่ และพบว่ายังมีวัยรุ่นที่เคยมี เพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้วิธีการป้องกันแม้จะได้รับความรู้เรื่องเพศศึกษา และการเข้าถึงสื่อลามกได้ง่ายของ วัยรุ่นยุคปัจจุบัน
รูปแบบการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นที่ผู้วิจัยดำเนินการในครั้งนี้ ยัง ไม่เพียงพอที่จะสร้างความตระหนักเพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสมสำหรับวัยรุ่นในยุคปัจจุบันได้ จึงควรมี การศึกษาเชิงลึกในพฤติกรรมและทัศนคติเรื่องเพศของวัยรุ่นให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้นำข้อมูลมาวางแผนจัด กิจกรรมหรือรูปแบบการบริการหรือการสร้างค่านิยมใหม่ที่เหมาะสม และหน่วยงานหรือองค์กรทุกภาคส่วน ในชุมชนควรให้ความสำคัญและใส่ใจ ร่วมกันดำเนินการตามบทบาทที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาการ ตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นต่อไป
ไม่มี