ชื่องานวิจัย | ผลของโปรแกรมการให้ความรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคัวะ |
---|---|
วันที่เผยแพร่ | 1 ต.ค. 2556 |
หน่วยงาน | โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคั๊วะ ตำบลศรีภูมิ |
ผู้วิจัย | นายAdmin NRIS |
ผู้วิจัยร่วม |
|
ประเภทของบทความ | บทความวิชาการ หรือ เอกสารรูปแบบวิชาการต่างๆ |
คำสำคัญ | โปรแกรมการให้ความรู้,กระบวนการกลุ่ม,พฤติกรรมการดูแลตนเอง,โรคความดันโลหิตสูง |
สาขางานวิจัย | งานบริการระดับปฐมภูมิ |
ประเด็นงานวิจัย | ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและ Health Literacy |
กลุ่มของวัตถุประสงค์การศึกษา | การประเมินผลโปรแกรมหรือโครงการ (Program/project evaluation) |
ประเภทของงานวิจัย | การวิจัยเชิงกึ่งทดลอง (Quasi Experimental Research) |
ชนิดของข้อมูล | เชิงปริมาณ |
ภาคีเครือข่ายในงานวิจัย |
|
ระดับการนำไปใช้ | ใช้ประโยชน์เฉพาะหน่วยงาน |
เอกสาร | |
คะแนน | 0 |
จำนวนการเข้าชม | 431 |
เพื่อเปรียบเทียบความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและการดูแล ตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงทั้งก่อนและหลังโดยใช้กระบวนการกลุ่ม
การวิจัยแบบกึ่งทดลอง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นผู้ป่วย โรคความดันโลหิตสูงที่มารับยาที่รพ.สต.บ้านคัวะ ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน จำนวน 34 คน โดยเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ เก็บรวบรวมข้อมูลก่อน และหลังดำเนินงาน วิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติ เชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ยร้อยละ
ผลการวิจัยพบว่าหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่าง มีระดับคะแนนความรู้ พฤติกรรมการดูแลตนเอง ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง สูงกว่าก่อนการทดลอง แยกตามหัวข้อได้ดังนี้ การรับรู้โอกาสเสี่ยง รับรู้ ถูกต้องมาก ก่อนดำเนินการร้อยละ 50.0 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.9 การรับรู้ความรุนแรงของ โรค รับรู้ถูกต้องมาก ก่อนดำเนินการร้อยละ 58.8 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.5 การดูแลตัวเอง โดยทั่วไปปฏิบัติถูกต้อง ก่อนดำเนินการร้อยละ 70.6 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.2 การควบคุม อาหารปฏิบัติถูกต้อง ก่อนดำเนินการร้อยละ 70.6 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 88.2 การออกกำลังกาย ปฏิบัติถูกต้อง ก่อนดำเนินการร้อยละ 47.0 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 76.5 การพักผ่อนปฏิบัติตน ถูกต้อง ก่อนดำเนินการร้อยละ 58.8 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 100 การหลีกเลี่ยงปัจจัยส่งเสริมการ เกิดภาวะแทรกซ้อนปฏิบัติตนถูกต้อง ก่อนดำเนินการร้อยละ 64.7 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 94.1 การใช้ยาปฏิบัติตนถูกต้อง ก่อนดำเนินการร้อยละ 37.2 หลังดำเนินการเพิ่มขึ้นร้อยละ 100
ระดับความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตก่อนการดำเนินการ ส่วนใหญ่มีระดับความดัน โลหิตอยู่ในช่วงSBP (Systolic Blood Pressure) 140-159 มิลลิเมตรปรอท และ DBP (diastolic Blood Pressure) 90-99 มิลลิเมตรปรอท ร้อยละ 61.8 รองลงมาคือระดับความดันโลหิตอยู่ในช่วง SBP 160-179 มิลลิเมตรปรอท และ DBP 100-109 มิลลิเมตรปรอท ร้อยละ 38.2 หลังการดำเนินการ ส่วนใหญ่มีระดับความดันโลหิตอยู่ในช่วง SBP 100-139 มิลลิเมตรปรอทและ DBP 70-89 มิลลิเมตร ปรอท ร้อยละ 88.2 รองลงมาคือระดับความดันโลหิตอยู่ในช่วง SBP 140-159 มิลลิเมตรปรอทและ DBP 90-99 มิลลิเมตรปรอท ร้อยละ 11.8
ระดับผลเลือดของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงก่อนการดำเนินการส่วนใหญ่มีระดับที่อยู่ในเกณฑ์ที่ ผิดปกติ หลังจากเข้าร่วมโปรแกรมฯ ระดับผลเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติมากยิ่งขึ้น และไม่พบผลเลือดผิดปกติใน กลุ่มที่ปกติก่อนเข้าร่วมโปรแกรม ส่วนกลุ่มที่ผิดปกติก็มีการปฏิบัติตัวที่ดีขึ้น
ไม่มี